ปัญหาเรื่องของขนๆ ถือเป็นปัญหาใหญ่สำหรับใครบางคน จึงทำให้หลายๆ คนต่างต้องหาวิธีกำจัดขนที่เห็นผลได้นานและเห็นผลได้ไว ดังนั้นในบทความนี้เรามี 7 วิธีที่สามารถแก้ปัญหาขนดกให้หายไปอย่างถาวรโดยไม่เสี่ยงต่อการเกิดขนคุดหรือตุ่มหนังไก่ น้องยังนี้ยังช่วยปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนขึ้นอีกด้วย
ทำความรู้จักกับเส้นขน เส้นขนคืออะไร?
เส้นขน (Hair Shaft) คือ ส่วนที่โผล่ออกมาจากผิวหนัง มีเป็นองค์ประกอบหลักเป็นโปรตีนที่เรียกว่าเคราติน มากกว่า 95% ซึ่งเคราตินจะประกอบไปด้วยกรดอะมิโนและแร่ธาตุต่างๆ เช่น ไฮโดรเจน ฟอสฟอรัสไนโตรเจน คาร์บอน และซัลเฟอร์ โดยเส้นขนนั้นมีหน้าที่ในการปกป้องผิวจากมลภาวะต่างๆ ช่วยลดแรงกระแทก และช่วยในการรักษาอุณหภูมิร่างกาย
สาเหตุของปัญหาขนดกมีอะไรบ้าง
ปัญหาขนดกนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยด้วยกัน ซึ่งนอกจากนั้นยังมีอีกหลายกรณีที่ไม่สามารถระบุหาสาเหตุได้หรือที่เรียกว่า ขนดกโดยไม่ทราบสาเหตุ (Idiopathic Hypertrichosis)
1.พันธุกรรม
ปัญหาขนดกนั้นสามารถมีการส่งต่อกันได้ทางพันธุกรรมซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะมักพบในกลุ่มคนแถวเมติเตอร์เรเนียน คนตะวันออกกลาง รวมไปถึงคนเอเชียใต้ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้จะมีสภาพเส้นขนที่หนาแข็งเนื่องจากสภาพอากาศในบริเวณเหล่านั้น
2.ความอ้วน
ขนดกสามารถเกิดขึ้นได้ในกลุ่มคนที่มีน้ำหนักตัวที่เยอะเพราะในกลุ่มคนที่มีภาวะอ้วนจะมีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้ถือเป็นปัจจัยหลักในการเกิดภาวะขนดก
3.มีฮอร์โมนเพศที่สูง
ระดับฮอร์โมนใร่างกายมีความสำคัญอย่างยิ่งนั้นก็คือระดับฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) หรือที่เราเรียกว่าฮอร์โมนเพศชาย ที่หากยิ่งมีสูงมากเท่าไหร่ยิ่งมีโอกาสเกิดขนดกได้มากเท่านั้น ซึ่งปัญหานี้ส่วนใหญ่มักพบได้ในเพศหญิง
4.การใช้ยาหรือปัญหาของสุขภาพ
ซึ่งในตัวยาบางตัวอาจมีส่วนในการช่วยกระตุ้นระดับฮอร์โมนในร่างกายจนทำให้เกิดขนดกได้ เช่น ยาคุม, Danazol, Corticosteroid, Anabolic steroid และนอกจากนั้นยังมีโรคอีกหลายๆ โรคที่ก่อให้เกิดขนดกเช่น PCOS (ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ), โรคต่อมไทรอยด์, อาการคุชชิง เป็นต้น
5.การกำจัดขน
ไม่ว่าจะเป็นการโกนขน หรือใช้ครีมกำจัดขนที่เป็นการกำจัดขนแบบไม่ถูกวิธี และแพทย์หลายๆ คนไม่แนะนำเนื่องจากจะไปช่วยกระตุ้นให้เกิดเส้นขนใหม่ที่หนาแข็ง และส่งผลให้เกิดอาการขนดกขึ้นได้ในบางราย
ขนดกนั้นมีความอันตรายต่อร่างกายไหม
อาการขนดกนั้นถือว่าเป็นอาการที่ไม่มีความอันตรายใดๆ ต่อร่างกายในทางการแพทย์ เพียงแต่จะส่งผลในเรื่องของความมั่นใจต่อตัวผู้เป็นเท่านั้น เนื่องจากหากใครมีปัญหาขนดก ขนเยอะอาจทำให้รู้สึกเสียความมั่นใจจนส่งผลต่อทางด้านจิตใจในอนาคตได้เช่นกัน
การเติบโตของเส้นขนมีกี่ระยะ อะไรบ้าง?
ระยะการเติบโตของเส้นขนสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ระยะคือ
- ระยะเจริญเติบโต (Anagen Phase)
ระยะนี้ต่อมขนจะอยู่ลึกเข้าไปในชั้นหนังแท้ (Dermis) มีเลือดมาหล่อเลี้ยงเป็นจำนวนมาก ขนจึงเจริญเติบโตงอกยาวออกมา ขนส่วนใหญ่จะอยู่ในระยะนี้นานที่สุด แต่ขึ้นอยู่กับชนิดของขน เช่น เส้นผมจะอยู่ในระยะนี้ถึงร้อยละ 80-90 และอยู่นานประมาณ 3 ปี ก่อนจะเปลี่ยนเข้าสู่ระยะอื่น ขณะที่ขนคิ้ว ขนตา ขนรักแร้ ขนหน้าแข้ง ขนอก จะอยู่ในระยะนี้สั้นกว่าขนบนศีรษะ - ระยะเปลี่ยนแปลง (Catagen Phase)
ระยะนี้ต่อมขนจะเปลี่ยนแปลงไป โดยการเลื่อนตัวสูงขึ้นมาใกล้ผิว แต่ยังมีเลือดมาหล่อเลี้ยงอยู่ ขนจะอยู่ในระยะนี้ประมาณ 2-3 สัปดาห์ เป็นช่วงก่อนหลุดร่วง - ระยะหยุดเจริญเติบโต (Telogen Phase)
ระยะนี้ต่อมขนเลื่อนขึ้นมาอยู่สูงต่ำกว่าช่องเปิดต่อมไขมันเพียงเล็กน้อย ไม่มีเลือดมาเลี้ยง ขนเตรียมหลุดร่วง
วิธีแก้ไขปัญหาขนดก มีอะไรบ้าง?
1.โกนขนด้วยมีดโกน
เป็นวิธีง่ายๆที่สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเส้นขนก็จะหายไปทันที แต่ก็เป็นวิธีที่ทำให้เส้นขนกลับมาได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน เนื่องจากกำจัดขนได้แค่ส่วนบนของผิวหนังเท่านั้น
เหมาะกับใครบ้าง เหมาะกับผู้ที่ต้องการกำจัดเส้นขนแบบเร่งด่วน และแบบชั่วคราวตรงบริเวณ แขน ขา ใต้ แต่ควรเลือกมีดโกนที่มีแถบความชุ่มชื้นหรือโกนขนโดยใช้เจลเพื่อป้องกันไม่ให้โดนบาดเอาได้ง่ายๆ
ข้อดี
- ช่วยกำจัดขนได้อย่างรวดเร็ว
- เป็นวิธีที่สะดวก ประหยัด และสามารถทำได้เองที่บ้าน
ข้อเสีย
- อาจทำให้เส้นหนาใหม่มีสีที่เข้มขึ้น
- ทำให้เกิดขนคุดตามมาได้ในอนาคต
- อาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิวตามมาได้
- อาจทำให้ได้รับบาดเจ็บและเกิดบาดแผลจากการโดนบาด
2.ถอนขนด้วยแหนบ
การถอนขนเป็นวิธีกำจัดขนแบบดั้งเดิมที่มีมานานมากๆ และยังได้รับความนิยมอยู่สำหรับการกำจัดขนในบางตำแหน่งที่มีจำนวนเส้นขนไม่มาก เช่น ขนคิ้ว เหมาะกับใครบ้าง ผู้ที่ต้องการกำจัดเส้นขนออกไปทั้งราก และต้องการกำจัดขนในบริมาณไม่มาก
ข้อดี
- สามารถทำได้ง่าย ประหยัดค่าใช้จ่าย
- สามารถกำจัดขนออกไปได้ทั้งราก
ข้อเสีย
- ทำให้เกิดผลข้างเคียงต่อผิวหนังและรูขุมขุน
- ผิวหนังหรือรูขุมขนอักเสบได้
- ทำให้เกิดแผลขนาดเล็กที่มองไม่เห็นบริเวณรูขุมขน
- ผิวหนังเกิดการระคายเคืองและติดเชื้อกลายเป็นอาการอักเสบ หรืออาจนำไปสู่อาการคัน
- หากถอนเส้นขนออกจากรูขุมขนไม่หมด ก็อาจทำให้เกิดขนคุดตามมาได้
3.แว๊กซ์กำจัดขน
เป็นวิธีที่ถูกพัฒนาขึ้นมาจากการถอนขน โดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความเหนียว จากนั้นรอให้แห้แล้วกระชากออกอย่างแรง ซึ่งจะทำให้ เส้นขนหลุดติดออกมาได้ทั้งราก แต่ก็อาจจะมีเส้นขนบางส่วนที่ขาดออกจากรากเช่นกัน
เหมาะกับใครบ้าง ผู้ที่ต้องการความรวดเร็วในการกำจัดเส้นขน และใช้อุปกรณ์ที่ไม่ยุ่งยาก ไม่เหนื่อย ให้ผลลัพธ์ที่ดีสามารถกำจัดเส้นขนถึงรากขน ในครั้งเดียว ส่งผลให้เส้นขนที่ขึ้นใหม่ช้าลงได้
ข้อดี
- ทำให้ผิวที่เนียน ไร้ขน นานถึง 3-4 อาทิตย์
- ทำให้ผิวนุ่มและเส้นบางขึ้น ยังเป็นการกำจัดหนังกำพร้า ทำให้ผิวใส ดูสุขภาพดี
ข้อเสีย
- ให้ความรู้สึกเจ็บมากเพราะต้องใช้แว็กซ์ดึงออกมา
- หากทำไม่ถูกวิธี อาจไม่ได้ประสิทธิภาพตามที่ต้องการ
- อาจเกิดการระคายเคืองหรือเป็นแผลได้
- กำจัดขนได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น
4.ครีมกำจัดเส้นขน
ในครีมกำจัดขนจะมีส่วนประกอบของสารเคมี ที่จะเข้าไปทำลายเส้นขนให้ขาดออกจากรากขนอย่างง่ายดายเพียงทำการเช็ดออก แต่รากขนก็ยังคงอยู่ตามเดิม เหมาะกับใครบ้าง ผู้ที่ต้องการกำจัดขนที่ไม่พึงประสงค์ออกไปอย่างเร่งด่วน แต่กลัวเจ็บ และกังวลต่อการเกิดขนคุด
ข้อดี
- เป็นวิธีกำจัดขนที่ไม่ทำให้รู้สึกเจ็บแสบ
- ง่ายไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น
ข้อเสีย
- อาจทำลายโปรตีนชั้นผิวหนังที่
- ผิวหนังจะระคายเคืองจากการแพ้สารเคมี และเกิดการอักเสบได้
5.ใช้เครื่องกำจัดขน
เครื่องกำจัดขนไฟฟ้า หรือ เครื่องถอนขน เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่จะช่วยกำจัดเส้นขนให้หลุดออกไปอย่างง่ายดาย แต่ก็ยังคงต้องระวังว่าจะทำให้เส้นขนขาดออกจากราก และในขณะทำยังให้ความรู้สึกเจ็บคล้ายกับการถอนขนแบบทั่วไป แต่ สามารถกำจัดขนได้รวดเร็วกว่าเท่านั้นเอง เหมาะกับใคร บ้างผู้ที่ต้องการกำจัดเส้นขนให้หลุดออกไปได้ทั้งรากอย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องเสี่ยงต่อการแพ้หรือระคายเคืองผิวจากสารเคมี
ข้อดี
- ไม่เสียเวลากำจัดขน เพราะสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว
- เสี่ยงต่อการไม่ผิวหนังไก่น้อยกว่าการกำจัดขนด้วยการถอนแบบทั่วไป
ข้อเสีย
- อาจทำให้เกิดอาการผิวหนังอักเสบได้ จนสีผิวไม่สม่ำเสมอ
- หากใช้ไม่ถูกวิธี หรือเครื่องมีความร้อนสูงอาจทำให้ผิวหนังถูกทำลายได้
6.เลเซอร์กำจัดขน
เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมสูงมากในปัจจุบัน เนื่องจากพลังงานจะส่งตรงไปทำลายรากขนโดยเฉพาะ จึงทำให้ไม่กระทบกับผิวหนังส่วนบน จึงพบผลข้างเคียงได้น้อยมากๆ นอกจากนี้ยังทำให้รักขนอ่อนแอลงเรื่อยเรื่อย ซึ่งถือเป็นการตัดวงจรการเกิดเส้นขนใหม่อีกด้วย
เหมาะกับใครบ้าง เหมาะกับผู้ที่ต้องการกำจัดเส้นขนแบบถาวร ผู้ที่ไม่มีเวลาในการกำจัดขนแบบซ้ำๆ รวมถึงผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาผิวจากการกำจัดขนแบบผิดวิธี
ข้อดี
- ไม่ต้องทนเจ็บในระหว่างการกำจัดขน
- ไม่เกิดปัญหาขนคุด รูขุมขนอักเสบ ผิวหนังไก่ หรือผลข้างเคียงกับผิวหนัง
- เป็นวิธีที่จะช่วยทำให้ผิวพรรณเนียนนุ่ม ไร้ขนในระยายาว
ข้อเสีย
- อาจมีอาการบวม แดง 3-4 ชั่วโมง ซึ่งสามารถหายไปได้เองโดยไม่ต้องกังวล
7.ฟอกสีขน
เป็นการปรับเปลี่ยนสีจากสีเข้ม ให้เป็นสีที่อ่อนลง หรือเป็นสีที่ใกล้เคียงกับสีผิวมากที่สุด เพื่อให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น เหมาะกับใครบ้าง เหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการกำจัดขนให้ออกไปจากร่างกาย แต่ต้องการเปลี่ยนสีขนให้เป็นสีที่อ่อนลง เพื่อให้ดูกลมกลืนกับผิวหนังเท่านั้น
ข้อดี
- เส้นขนดูเรียบเนียนไปกับสีผิว ทำให้ดูไม่รกรุงรัง
- ยังคงเก็บรักสาเส้นขนเอาไว้ได้คงเดิม
ข้อเสีย
- ทำให้ผิวอาจเกิดอาการระคายเคืองได้
- มีสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ที่อันตรายต่อผิวหากสัมผัสบ่อยๆ
- อาจทำให้เกิดแผลและเสี่ยงต่อโรคมะเร็งผิวหนังได้
อาการขนดกในเพศชายและเพศหญิงแตกต่างกันหรือไม่
ในเพศชายอาจจะเกิดปัญหาขนดก ขนเยอะขึ้นได้มากกว่าเพศหญิงถือเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากส่วนสำคัญในการกระตุ้นการสร้างเส้นขนคือฮอร์โมนเพศชายอย่าง ฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) นั่นเอง นั้นจึงทำให้เพศชายหลายๆ มีสภาพเส้นขนที่ดก หนาและเยอะกว่าเพศหญิง
คำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำเลเซอร์ขน
1.ทำไมใครๆก็นิยมทำเลเซอร์กำจัดขน เพื่อแก้ปัญหาขนดก
เพราะการโกนขน การถอนขน การแว็กซ์ขน และการกำจัดขนด้วยอื่น เป็นการทำร้ายผิวให้เกิดการระคายเคือง อีกทั้งยังเป็นต้นเหตุของการเกิดปัญหาขนคุด รูขุมขนกว้าง ผิวหนังไก่ แต่การกำจัดขนด้วยเลเซอร์เป็นวิธีที่สามารถกำจัดขนได้อย่างถาวร และช่วยแก้ไขปัญหาผิวต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผิวมีความเรียบเนียนกระจ่างใสขึ้นอีกด้วย
2.ทำเลเซอร์กำจัดขนในระยะไหนดีที่สุด
สำหรับการทำเลเซอร์กำจัดขนมักจะได้ผลที่ดีที่สุดกับเส้นขนที่อยู่ในระยะ Anangen เนื่องจากรากขนมีความแข็งแรง สามารถดูดซับพลังงานความร้อนได้ดีกว่าเส้นขนในระยะอื่นๆ ดังนั้นหลังการกำจัดออกไปในแต่ละครั้ง จึงจำเป็นต้องทิ้งระยะห่างประมาณ 2-3 สัปดาห์ เพื่อให้เส้นขนในระยะอื่นแข็งแรงขึ้น และต้องทำซ้ำประมาณ 5 ครั้งขึ้นไปเพื่อการเห็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
3.จริงหรือไม่ที่การเลเซอร์สามารถกำจัดขนให้เส้นขนหายไปได้ถาวร?
เลเซอร์ใช้กำจัดขนจะทำลายรากขนที่อยู่ลึกลงไปในชั้นผิว ส่งผลให้เส้นขนใหม่ขึ้นมาช้า และเส้นขนที่เกิดใหม่จะมีขนาดเล็กลงสีอ่อนลงปริมาณน้อยลง เมื่อมีการทำเลเซอร์อย่างต่อเนื่องเส้นขนหายไปอย่างถาวร ในช่วง 3-5 ปี โดยไม่ทำลายรูขุมขน ไม่ทิ้งรอยไหม้หรือรอยแดงบนผิวหนังให้ต้องกังวล
4. เลเซอร์กำจัดขนทำบริเวณไหนได้บ้าง?
การทำเลเซอร์กำจัดขนด้วย Long Pulse ND Yag เป็นวิธีที่ให้ความปลอดภัยสูง ไม่ทำให้เกิดโรคมะเร็งและไม่เป็นอันตรายต่อผิวหนัง สามารถทำได้ทุกสัดส่วนในบริเวณร่างกายที่ต้องการกำจัดเส้นขนออกไป เช่น ขนหน้า ขนหนวด ขนแขน ขนขา ขนรักแร้ และขนน้องสาวเป็นต้น
สรุป
สำหรับคำแนะนำในการเลือกวิธีกำจัดขน ควรเลือกวิธีที่ได้รับความนิยมจากแพทย์ผิวหนัง และวิธีที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลก ว่าสามารถกำจัดขนได้ในระยะยาว อีกทั้งความเชี่ยวชาญของแพทย์ก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยทำให้ผลลัพธ์หลังการทำเป็นไปความคาดหวัง